10 สุนัขพันธุ์เล็ก น่ารัก ที่คนนิยมเลี้ยง
1. ชิสุ
- ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมทั่วไปของสุนัขพันธุ์ชิสุ
ชิสุ เป็น สุนัข ขนาดเล็กในกลุ่มทอย (Toy Group) มีน้ำหนักประมาณ 4.5 - 7.5 กิโลกรัม (หรือราว 10 - 16 ปอนด์) ส่วนสูงประมาณ 25 - 27 ซม. (หรือราว 10 - 11 นิ้ว) ทั้งนี้ ชิสุ มีลักษณะนิสัย กล้าหาญ มีความตื่นตัว ขี้ประจบ มีความสง่าอยู่ในตัว รักความสะอาด เป็นมิตรกับทุกคน ปรับตัวได้ดี และชอบที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ กับเจ้าของในทุกเรื่อง แล้วก็ไม่ชอบถูกทิ้งไว้ในบ้าน ชิสุชอบวิ่ง และรักความสนุกซึ่งเจ้าของจำเป็นจะต้องพามันออกไปวิ่งออกกำลังกายบ้าง
- การเลี้ยงดูสุนัขพันธุ์ชิสุ
ชิสุมีอายุค่อนข้างยืนยาว คือประมาณ 10-18 ปี ตามแต่ปัจจัยต่าง ๆ เช่น อาหาร และการเลี้ยงดู โรคที่มักเกิดขึ้นกับชิสุ คือโรคตาแห้ง โรคหูน้ำหนวก หูอักเสบ โดยเจ้าของควรหมั่นทำความสะอาดตาและหูของชิสุ อย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดของมันโดยเฉพาะ ส่วนโรคอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับชิสุ ได้ เช่น โรคนิ่ว โรคไต และไส้เลื่อน
นอกจากนี้ ขนเป็นส่วนประกอบสำคัญที่เป็นตัวชี้วัดความสวยงามของชิสุ โดยเฉพาะ ชิสุเป็นสุนัขขนยาวที่จะต้องดูแลมากเป็นพิเศษ เนื่องจากมีขนเส้นเล็กและพันกันได้ง่าย หากไม่รู้จักวิธีการรักษาขนให้ดี ขนของชิสุจะพันกันและมีโอกาสเป็นโรคผิวหนังได้ง่าย ๆ ทั้งนี้ การแปรงขนอย่างสม่ำเสมอทุกวันจะช่วยให้ผิวหนังและขนสะอาดของชิสุเป็นเงางาม เพราะมีการนวดให้ต่อมน้ำมันที่โคนขนขับน้ำมันออกมาเคลือบเส้นผมได้มากขึ้น ทำให้ผิวหนังมีสุขภาพสมบูรณ์ และยังเป็นการช่วยขจัดรังแคและสิ่งสกปรกอื่นออกจากผิวหนังของชิสุด้วย
อาหารที่เหมาะกับเจ้าชิสุสุดสวย ควรเป็นอาหารเม็ดมากกว่าอาหารกระป๋อง เพราะสุนัขมีขนยาว หากให้กินอาหารกระป๋องจะทำให้เลอะหนวดเครา เหม็นคาว ทำให้ต้องทำความสะอาดกันทุกครั้งไป และหากล้างออกไม่หมดก็จะกลายเป็นที่สะสมของเชื้อโรค อีกทั้งถ้าให้อาหารกระป๋องต้องใช้ให้หมดในคราวเดียว ไม่เช่นนั้นจะเสี่ยงต่อสุขภาพของชิสุของคุณได้
2. ปอมเมอเรเนียน
- ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมทั่วไปของสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน
ปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 1.7-2.5 กิโลกรัม ถ้าน้ำหนักน้อยหรือมากกว่านี้ จะถือว่าไม่ได้มาตรฐานสายพันธุ์ เป็นสุนัขที่ว่องไวปราดเปรียว มีขนชั้นในที่แน่นและนุ่ม และมีขนชั้นนอกที่หยาบกว่าชั้นใน หางสวยงามเป็นพวงขน และตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สูง หางจะขนานไปกับหลัง โดยลักษณะนิสัยพื้นฐานของปอมเมอเรเนียนนี้ คือ จะตื่นตัวเสมอ เห่าเก่ง มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น อวดดี สง่างาม และขณะก้าวย่างแสดงถึงความมีชีวิตชีวา เป็นพันธุ์สมบูรณ์ทั้งรูปร่างและการเคลื่อนไหว
- การเลี้ยงดูสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน
การดูแลขนของปอมเมอเรเนียนต้องได้รับการแปรงขนทุกวันหรืออาทิตย์ละสองครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อที่จะให้ขนที่หนาและสวยไม่พันกัน ขนของปอมเมอเรเนียน ต้องการการเล็มบ้างแค่ครั้งคราว ส่วนการดูแลหูและเล็บเป็นประจำเป็นสิ่งที่แนะนำรวมกับการอาบน้ำ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรอาบน้ำให้ปอมเมอเรเนียนบ่อยมากจนเกินไป เพราะการอาบน้ำบ่อยจะทำให้หนังและขนเแห้งจนเกินไป เนื่องจากน้ำมันที่จำเป็นถูกล้างออกไปหมด นอกจากการดูแลขนแล้ว สิ่งที่สำคัญที่มากที่สุดสำหรับสุนัขปอมเมอเรเนียน คือการได้รับการดูแลสุขภาพปากและฟันเป็นอย่างดี เนื่องจากปอมเมอเรเนียนง่ายต่อการสูญเสียฟันอันเนื่องมาจากปัญหาฟันผุ หรือสุขภาพเหงือกไม่ดี จึงต้องมั่นทำความสะอาดฟันให้เป็นประจำ และควรให้อาหารชนิดแห้งเพื่อลดปัญหาสุขภาพปากและฟัน
3. พุดเดิ้ล
- ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมทั่วไปของสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล
พุดเดิ้ล ถูกจัดอยู่กลุ่ม สุนัข ที่ไม่ใช้ในเกมกีฬา (Non sporting Group) เป็นสุนัขประเภทสวยงาม ปากเรียวยาว ดวงตากลมโต หูห้อยลงมาปิดแก้ม ขนดกและหยิกชนิดติดหนัง ขนสั้นและเงางาม ขนค่อนข้างละเอียด เรียบ หยาบเล็กน้อยและไม่มีขนปุกปุย สีขนมีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนจนถึงน้ำตาลแก่ มีขนสีขาวแต้มบริเวณหน้าอกเรียกว่า สตาร์ ข้อเท้า และปลายหาง อาจจะมีจุดสีขาวเล็กน้อยบริเวณใบหน้า จมูกจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อมันตกใจ
- การเลี้ยงดูสุนัขพันธฺุ์พุดเดิ้ล
อาหารการกินของสุนัขพุดเดิ้ล ควรให้เป็นอาหารสำเร็จรูปจะดีที่สุด อาหารสำเร็จรูปนั้นมีอยู่หลายสูตรด้วยกัน ได้แก่ อาหารสูตรลูกสุนัข อาหารสูตรสุนัขโต และอาหารสูตรสุนัขแก่ การให้อาหารก็ควรให้ตรงตามอายุและสูตร เนื่องจากสุนัขในแต่ละวัยนั้นมีความต้องการอาหารที่แตกต่างกัน อย่างเช่น ลูกสุนัข จำเป็นต้องได้รับสารอาหารจำพวกโปรตีนสูงกว่าสุนัขโต ในขณะที่ร่างกายของสุนัขโตจะต้องการอาหารประเภทพลังงานมากกว่าโปรตีน อย่างนี้เป็นต้น และปริมาณการให้อาหารก็ไม่ควรมากจนเกินไป เพราะพุดเดิ้ล จัดเป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่กินไม่มาก ส่วนในด้านการดูแลความสะอาดของพุดเดิ้ลจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องหู เพราะพุดเดิ้ลมีใบหูที่ใหญ่ หนา ห้อยปรกลงมา จึงต้องหมั่นสำรวจดูใบหูบ่อย ๆ แล้วใช้สำลีเช็ดทำความสะอาดให้หมดจด ซึ่งจะดีมากหากจะหยอดน้ำยาเช็ดหูเข้าไปก่อนประมาณ 5 นาที เพื่อทำให้สิ่งสกปรกอ่อนตัว และง่ายในการเช็ดออกมา แต่ระวังอย่าแหย่สำลีลึกจนเกินไป เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อหูชั้นในได้
นอกจากนี้ ตาก็เป็นอวัยวะสำคัญที่พบปัญหา พูเดิ้ลส่วนใหญ่จะมีร่องน้ำตาที่เห็นได้ค่อนข้างชัด ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้คราบน้ำตาหรือสิ่งสกปรกไปหมักหมมได้ง่าย เจ้าของจึงควรคอยเช็ดทำความสะอาดให้ทุกวัน เพราะหากทิ้งไว้นาน ๆ คราบนั้นจะฝังแน่นอย่างถาวร เช็ดไม่ออก นอกจากนั้น ยังควรหมั่นตรวจดูดวงตาของพูเดิ้ลด้วยว่ามีฝ้าขาว ๆ หรือรอยขีดข่วน รอยแผลบ้างหรือไม่
4.ปั๊ก
- ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมทั่วไปของสุนัขพันธุ์ปั๊ก
สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่นิยมเลี้ยงกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีนิสัยน่ารัก ถึงหน้าตาของเขาจะดูเหมือนคิดมากไปสักหน่อย แต่ถ้าได้ลองเลี้ยงแล้วจะหลงใหลไม่รู้ตัว เพราะความอ่อนโยนของมัน ข้อควรระวังในการเลี้ยงคือสภาพอากาศที่ร้อน ปั๊กจะทนไม่ค่อยได้ ถ้าทนไม่ไหวอาจเป็นลมแดดได้ และถ้าอากาศเย็นควรให้อยู่ในที่อุ่น ๆ หรือหาเสื้อมาสวมให้เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นหวัด
- การเลี้ยงดูสุนัขพันธฺุ์ปั๊ก
แม้สุนัขพันธุ์นี้จะไม่ต้องการการดูแลเสริมสวยให้ยุ่งยากมากนัก แต่ก็จำเป็นต้องได้รับการรักษาความสะอาดทุกวัน อีกทั้งการดูแลเอาใจใส่ในเรื่องของการออกกำลังกาย ก็เป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม้ปั๊กจะไม่ใช่สุนัขที่รักกีฬา แต่การพาเขาไปออกกำลังกายให้พอเพียง ก็จะช่วยให้เขาไม่อ้วนและกลายเป็นสุนัขที่เฉื่อยชาจนเกินไป เนื่องจากรูปทรงของตาและใบหน้าทำให้สุนัขสายพันธุ์นี้มีแนวโน้มที่จะเกิดการบาดเจ็บที่ตาได้ง่าย ถ้าปั๊กของคุณกำลังถูตาอยู่ กระพริบตาถี่ ๆ มีน้ำตาไหลมากเกิน หรือตามีการเปลี่ยนสีไป ควรปรึกษาสัตวแพทย์ของคุณโดยทันที และการที่เป็นสุนัขจมูกสั้น เขาจึงมักมีปัญหาเกี่ยวกับเพดานปากอ่อน จึงจำเป็นต้องตรวจสอบอยู่เสมอ
นอกจากนี้ ปั๊กยังมีความเสี่ยงที่จะอ้วนได้ง่าย ดังนั้น การควบคุมปริมาณอาหารและการออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งจำเป็น โครงสร้างกะโหลกศีรษะที่สั้น ส่งผลให้ปั๊ก มักมีปัญหาระบบทางเดินหายใจส่วนต้น โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือภายหลังการออกกำลังกายอย่างหนัก จึงควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มากเกินไป และการเลี้ยงดูในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง
5. ชิวาวา
- ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมทั่วไปของสุนัขพันธุ์ชิวาวา
หลาย ๆ คนลงความเห็นว่า สุนัข ชิวาวา มีนิสัยที่ค่อนข้างติดเจ้าของและไม่ทำลายข้าว ขี้ประจบมาก อ้อน บางครั้งก็เป็น สุนัข ที่หยิ่งในตัว ถ้าไม่ใช่เจ้าของจะไม่ให้จับต้อง ปากเปราะเห่าเสียงดังเหมือน สุนัข พันธุ์เล็กตัวอื่น ๆ ทำให้ สุนัข ชิวาวา เหมาะที่จะเลี้ยงไว้สำหรับเป็นเพื่อนมากกว่าหมาเฝ้าบ้าน แต่จากการสำรวจของเดลิเมล์ พบว่า ชิวาวา สามารถสร้างความเสียหายให้เจ้าของได้เฉียด 40,000 บาท ตลอดช่วงอายุขัยของมัน เรียกได้ว่า เป็นรองแค่สุนัขพันธุ์เกรทเดนที่สร้างความเสียหายให้ทรัพย์สินและที่อยู่อาศัยของเจ้าของเฉลี่ย 41,540 บาท โดยอาจอ้างได้ว่าเป็นเพราะขนาดตัวของสุนัขพันธุ์นี้มีขนาดใหญ่
- การเลี้ยงดูสุนัขพันธฺุ์ชิวาวา
สุนัขพันธุ์ชิวาวาเพศผู้อายุ 1 ปี จะเริ่มเป็นสัดซึ่งเร็วกว่าเพศเมีย เริ่มเหล่หนุ่มตอนช่วงอายุ 18 เดือน หลังจากผสมพันธุ์แล้วตกลูกเต็มที่ 1-3 ตัว น้ำหนักตั้งท้องจะมีขนาด 2 กิโลกว่า ลูกสุนัข มีน้ำหนัก 1 ขีด ไม่เกิน 2 ขีด มีขนาดเล็กมาก แรกเพิ่งคลอดต้องคอยดูแลให้ สุนัข กินนมแม่ ซึ่งช่วงนี้ควรระวังเรื่องโรคต่าง ๆ พออายุราวเดือนครึ่ง ควรเริ่มฝึกให้ สุนัข ชิวาวา กินอาหารเม็ดด้วยการแช่น้ำให้นิ่ม หรือผสมนมแพะเล็กน้อย หรือให้ อาหารเหลวสำหรับ ลูกสุนัข เป็นการฝึกให้สุนัขเลียหรือกินอาหารได้เอง
6. เฟรนช์ บูลด็อก
- ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมทั่วไปของสุนัขพันธฺุ์เฟรนช์ บูลด็อก
ฉลาด กล้าหาญ ร่าเริง ชอบเล่น ชอบออกกำลังกาย และตื่นตัวอยู่เสมอ เป็นมิตร เข้ากับคนและสัตว์อื่น ๆ ได้ดี เฟรนช์ บูลด็อก เป็นสุนัขที่เห่าน้อย ไม่ทนต่ออากาศร้อน โดยเฉพาะตัวที่นำเข้าจากต่างประเทศ อาจจะยังปรับตัวไม่ได้ แต่สำหรับสุนัข เฟรนช์ บูลด็อก ที่เกิดในเมืองไทยจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสภาวะอากาศเท่าไรนัก
- การเลี้ยงดูสุนัขพันธฺุ์เฟรนช์ บูลด็อก
ด้วยความที่เป็นสุนัขขนสั้น เฟรนช์ บูลด็อก จึงไม่ต้องการการดูแลมาก แต่เจ้าตูบจะผลัดขนในช่วงหน้าร้อน การออกกำลังกายทำได้ง่าย โดยพามันเดินเล่นรอบ ๆ บ้าน หรือโยนลูกบอลเล่นกับมัน นอกจากนี้ มันไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ผู้เลี้ยงต้องให้ความสำคัญ กับเรื่องระบบการหายใจของสุนัขด้วย หายใจทางปากถี่ขึ้นจนผิดปกติ ควรรีบนำมันเข้าที่ร่มหรือห้องแอร์โดยเร็ว และหากมั่นใจว่ามันอาจจะเป็นฮีทสโตรก (ชักเนื่องจากความร้อน) ควรลดอุณหภูมิร่างกายของมันให้เร็วที่สุด เช่น เอาน้ำราด เอาน้ำแข็งไปโปะ แล้วพาไปหาหมอให้ฉีดยากันชักโดยเร็ว ส่วนเรื่องการกินข้าวของเจ้าหมาพันธุ์นี้ หากเจ้าของกินข้าวเวลาเดียวกันกับ เฟรนช์ บูลด็อก เห็นทีจะต้องทำใจในเรื่องมารยาทในการกินอาหารของมันหน่อยนะ เพราะ เฟรนช์ บูลด็อก จะกินข้าวด้วยเสียงจุ๊บจั๊บให้ได้ยินกันถ้วนหน้า เมื่ออิ่มแล้วมันก็จะมานอนบนตักของคุณและเริ่มผายลมออกมาเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งท้องไส้เริ่มหายปั่นป่วน มันก็จะนอนหงายท้องอย่างสบายใจ แล้วเริ่มกระบวนการกรนเสียงดังเพื่อให้คุณคลายเหงา
7. แจ๊ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย
- ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมทั่วไปของสุนัขพันธุ์แจ๊ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย
สุนัขพันธุ์นี้สามารถมีชีวิตได้นานถึง 14 ปี แจ๊ค รัสเซลล์ เทอร์เรียร์ เป็นนักล่าตัวเล็ก ๆ ที่ยอดเยี่ยม พวกมันเป็นสุนัขที่ฉลาด ซึ่งเห็นได้ชัดจากการที่เขาเชื่อฟังคำสั่งของเจ้านายได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสนามแข่งขัน โดยในอดีต แจ๊ค รัสเซลล์ จะไล่ล่าไปตั้งแต่สุนัขจิ้งจอกจนถึงหนูตัวเล็ก ๆ พวกมันจะใช้เวลาในการสำรวจพื้นที่ก่อนจะทำการไล่ล่า เพื่อความแม่นยำ นอกจากนี้ สุนัข แจ๊ค รัสเซลล์ ยังเข้ากันได้ดีกับสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ เหมาะเป็นทั้งสุนัขที่เลี้ยงในบ้าน และก็สามารถพาออกไปนอกบ้านได้อย่างไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ด้วยธรรมชาติความอยากรู้อยากเห็นจนถึงขั้นซนของ แจ็ค รัสเซลล์ ทำให้ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องให้เขาอยู่ในสถานที่ที่ซึ่งมีรั้วรอบขอบชิดเป็นอย่างดี
- การเลี้ยงดูสุนัขพันธฺุ์แจ๊ค รัสเซลล์ เทอร์เรีย
ผู้เลี้ยงจำนวนมากมักมีความคิดว่า หากน้องหมาทานแต่อาหารเม็ด น้องหมาจะเกิดความเบื่อหน่าย ไม่ถูกปาก และไม่อยากทาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาหารที่เหมาะสมกับน้องหมาที่สุดก็คือ อาหารเม็ดสำเร็จรูปเหล่านี้นั่นเอง เนื่องจากอาหารเม็ดสำเร็จรูปจะมีการคำนวณปริมาณสารอาหารต่าง ๆ ที่น้องหมาควรได้รับต่อมื้อมาอย่างพอดี โดยผู้เลี้ยงควรให้น้องหมาทานอาหารตามสูตรและให้ในปริมาณที่เหมาะสมตามที่ระบุไว้ข้างถุง หรือข้างกล่องของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้น้องหมาของเราได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายและไม่มากหรือน้อยจนอาจกลายเป็นปัญหาสุขภาพตามมาภายหลัง แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรียร์ เป็นสุนัขที่ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อย และการอาบน้ำเพียงเดือนละครั้งก็เพียงพอต่อความต้องการของน้องหมาแล้ว เนื่องจากพวกมันไม่มีต่อมเหงื่อเหมือนกับคนเรา การอาบน้ำบ่อย ๆ อาจทำให้ผิวหนังของน้องหมาแห้ง แต่อาจเพิ่มจำนวนครั้งในการอาบน้ำได้ตามสมควร หากว่ามันออกไปเล่นจนสกปรกมากเกินไป
แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรียร์ เป็นสุนัขที่มีลักษณะนิสัยกระฉับกระเฉง และตื่นตัวเป็นอย่างมาก จึงทำให้น้องหมามีความต้องการและชอบการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ แต่การพาน้องหมาไปออกกำลังกายนอกบ้าน หรือบริเวณพื้นที่สาธารณะนั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงลักษณะนิสัยของสุนัขสายพันธุ์ แจ็ค รัสเซลล์ เทอร์เรียร์ เป็นพิเศษ เพราะพวกมันมีแนวโน้มที่จะวิ่งไล่กวดสุนัขหรือสัตว์อื่น ๆ ที่พบเห็นได้โดยง่าย ผู้เลี้ยงจึงควรใส่สายจูงให้มันทุกครั้งเมื่อพามันออกไปเดินเล่นหรือออกกำลังกาย
8. ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย
- ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมทั่วไปของสุนัขพันธุ์ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย
ยอร์คเชียร์ เป็นสุนัขตัวเล็กที่เปี่ยมด้วยพลัง ชอบเล่น และอยากรู้ อยากเห็น นอกจากนั้น ยังชอบผจญภัย รักอิสระ และไม่ค่อยรู้จักความกลัว ด้วยความเป็นสุนัขที่มีนิสัยกล้าหาญ ไม่เกรงกลัวใคร ทำให้ยอร์คเชียร์มักไม่สนใจว่าตัวเองนั้นตัวเล็กกระจิดริดแค่ไหน เมื่อเจอคนแปลกหน้า ยอร์คเชียร์จึงพร้อมที่จะเห่าเตือนเจ้าของเสมอ สุนัข ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย เหมาะกับคนทุกช่วงอายุ และเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีสำหรับคนโสดหรือผู้ไม่มีบุตร หากบ้านใดมีเด็กเล็กอยู่ในครอบครัว ควรสอนเด็กให้รู้จักวิธีปฏิบัติตัวและวิธีเล่นกับ ยอร์คเชียร์ เพราะหากเด็กเล่นกับมันแรง ๆ ก็อาจทำให้มันบาดเจ็บได้ง่าย เพราะมันตัวเล็กและบอบบาง บางทีอาจอันตรายถึงชีวิต หรือหาก ยอร์คเชียร์ ถูกเด็กแกล้งเป็นประจำ ก็จะทำให้นิสัยของมันเปลี่ยนเป็นก้าวร้าว โมโหง่าย หรืออาจถึงขั้นกัดคน หากพ่อแม่รู้จักสอนลูก ๆ ให้ปฏิบัติตัวต่อยอร์คเชียร์อย่างดีแล้ว มันก็จะเป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัวที่ดีได้เช่นกัน
- การเลี้ยงดูสุนัขพันธฺุ์ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย
การอาบน้ำให้สุนัขยอร์คเชียร์ อาจทำแค่ 1 ครั้งต่อเดือน ก็เพียงพอ การอาบน้ำควรทำในสถานที่ที่อากาศอบอุ่น ก่อนอื่นต้องใช้สำลีอุดหูทั้งสองข้างเพื่อกันน้ำเข้าหู จากนั้นใช้มือข้างหนึ่งรองบริเวณอกของเขาเพื่อจับให้มันยืนขึ้น (หากเป็นไปได้ ควรหาผ้ารองกันลื่นมาวางรองพื้นเพื่อไม่ให้ขาของมันลื่นไถลไปมาเวลาที่คุณจับมันยืน) เปิดน้ำจากฝักบัวอย่าให้แรงมากนัก ค่อย ๆ รดตัวมันให้เปียกจนทั่ว ชโลมแชมพูให้ทั่วตัวและถูเบา ๆ ล้างทำความสะอาดบริเวณศีรษะและใบหน้าเป็นอันดับสุดท้าย ทั้งนี้ ต้องระวังอย่าให้แชมพูเข้าปากและตาของเจ้ายอร์คกี้ จากนั้นล้างแชมพูออกด้วยน้ำสะอาด แล้วเช็ดด้วยผ้าขนหนู ก่อนจะนำไปเป่าขนให้แห้งด้วยไดร์เป่าที่ใช้ความร้อนพอเหมาะ เสร็จแล้วจึงใช้แปรงหวีขนเบา ๆ ซึ่งการแแปรงขนให้ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย เป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำทุกวันสำหรับสุนัขพันธุ์นี้
ส่วนเรื่องอาหารการกินของสุนัขยอร์คเชียร์ ควรจะเป็นอาหารเม็ดจะดีที่สุด เพราะมีความสะดวกในการเก็บรักษา ในลูกสุนัขควรเลือกอาหารสูตรลูกสุนัข ซึ่งมีปริมาณโปรตีนสูง แต่สำหรับยอร์คกี้ ที่โตแล้ว อาจเลือกอาหารที่มีปริมาณโปรตีนเป็นส่วนประกอบขั้นต่ำ ประมาณร้อยละ 20 ก็เพียงพอ และอาจผสมอาหารเปียกลงไปในอาหารเม็ดเพื่อเพิ่มความน่ากินเป็นบางครั้งก็ได้
9. ปักกิ่ง
- ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมทั่วไปของสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง
ถึงแม้จะเคยเป็นสุนัขที่ได้รับการดูแลอย่างดีอยู่ในวัง แต่สุนัขพันธุ์ปักกิ่งก็มีนิสัยกล้าหาญเกินตัว ไม่เกรงกลัวอะไรง่าย ๆ แม้จะเป็นสุนัขตัวเล็ก ๆ พวกมันไม่เคยมีประวัติเรื่องวิ่งหนีหางจุกตูด ทั้งยังเป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรง ทรหดอดทน ฉะนั้น จึงทำหน้าที่เฝ้าบ้านได้เป็นอย่างดี และที่เด่นชัดเป็นที่สุด ก็คือความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ประจบประแจง ไม่เจ้าเล่ห์ และเลี้ยงง่าย ทั้งยังรักและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของอย่างยิ่งด้วย นอกจากนี้ สุนัขพันธุ์ปักกิ่งยังสุภาพ เป็นมิตร รักสนุกและชอบเล่น แม้ว่าในบางอารมณ์สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง จะดื้อดึงไปบ้าง แต่นั่นก็เพราะความเป็นตัวของตัวเอง รักอิสระ ไม่ชอบให้ใครบังคับ อันเป็นนิสัยที่มีอยู่ในสายเลือด จนบางครั้งอาจดูเหมือนดื้อ เอาแต่ใจ หากแต่ก็ไม่ดื้อจนไม่เชื่อฟัง ถ้าได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดี และได้รับความรักมากพอ สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง ก็น่ารักไม่ต่างไปจากเพื่อนตูบสายพันธุ์อื่น ๆ เลยสักนิด
อย่างไรก็ดี สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง ไม่ค่อยชอบเด็กและเข้ากับสุนัขตัวอื่นได้ยาก แต่หากเจ้าของเลี้ยงให้โตมาด้วยกันตั้งแต่ยังเล็ก ก็ไม่ยากเกินไปนักที่ สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง จะทำใจยอมรับกับการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับเพื่อนต่างสายพันธุ์
- การเลี้ยงดูสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง
ขนยาว ๆ หนา ๆ ของปักกิ่ง จำเป็นต้องได้รับการเอาใจใส่ดูแลอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ผู้เลี้ยงควรแปรงขนและทำความสะอาดขนให้ปักกิ่งเป็นประจำ และยังต้องหมั่นทำความสะอาดบริเวณตา หู ตัดเล็บนิ้วเท้าให้สั้นอยู่เสมอ นอกจากนั้น ควรจูงสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง เดินออกกำลังกายสม่ำเสมอในระยะทางที่ไม่ไกลนัก และด้วยจมูกสั้นแบน แถมยังจมลึกอยู่ระหว่างตาทั้งสองข้าง จึงทำให้ระบบการหายใจของปักกิ่ง เป็นไปอย่างลำบาก น้องหมาพันธุ์นี้จะไม่สามารถทนต่อสภาพภูมิอากาศที่ร้อนชื้นได้ดีเท่าใดนัก ฉะนั้น สุนัขพันธุ์ปักกิ่งจึงไม่เหมาะที่จะเลี้ยงนอกบ้าน หากเปิดแอร์ให้บ้างก็จะดีไม่น้อย อย่างไรก็ตาม สถานที่เลี้ยง สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง ต้องเป็นสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกด้วย
10. บีเกิ้ล
- ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมทั่วไปของสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล
บีเกิ้ลเป็นสุนัขที่สุภาพ พวกมันค่อนข้างเป็นมิตร ไม่ดุร้ายเกินไปหรือเฉื่อยชาเกินไป ชอบอยู่กันเป็นกลุ่ม แต่มันก็เชื่องคนง่ายเกินจึงไม่เหมาะที่จะเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน ทว่ามันยังคงเห่าหรือหอนบ้าง เมื่อเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้า นอกจากนี้ บีเกิ้ลยังเป็นสุนัขที่เหมาะกับเด็ก ๆ เข้ากับเด็กๆ ในบ้านดี ๆ ไม่พบประวัติการทำร้ายเด็ก บีเกิ้ลจึงเป็นสุนัขที่นิยมเลี้ยงกันในครอบครัว และบีเกิ้ลยังเข้ากับสุนัขสายพันธุ์อื่นได้ง่าย พวกมันแข็งแรงมาก จึงวิ่งเล่นได้นานโดยที่ไม่เหนื่อยง่ายๆ อย่างไรก็ตาม โดยธรรมชาติพวกมันเป็นสุนัขที่อยู่เป็นฝูง เวลานำไปเลี้ยงเดี่ยวจึงอาจเกิดอาการซึมเศร้าได้ และแม้ว่าบีเกิ้ลจะมีพลังเห่าหอนอันรุนแรง แต่ไม่ใช่บีเกิ้ลทุกตัวที่จะหอน แต่ส่วนมากจะเห่าเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งบางตัวจะเห่าหรือหอน เมื่อรับรู้ถึงกลิ่นใดกลิ่นหนึ่งโดยเฉพาะ
- การเลี้ยงดูสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล
แม้ว่าสุนัขสายพันธุ์นี้จะมีขนาดเล็ก แต่ด้วยเหตุที่จุดประสงค์ดั้งเดิมที่เค้าถูกพัฒนาขึ้นมาคือการเป็นสุนัข สำหรับล่าสัตว์ ทำให้พวกเค้ามีพลังงานในตัวมากและชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นอย่างยิ่ง ผู้เลี้ยงจึงควรพาไปออกกำลังกายบ้างอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น และหากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งไม่มีบริเวณกว้างขวางนัก อย่างเช่น คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนต์ คุณก็จะต้องพิจารณาให้ดีว่าคุณพอมีเวลาและมีสวนสาธารณะใกล้เคียงที่คุณสามารถพาเค้าไปเดินเล่นออกกำลังได้หรือไม่ อย่างไรก็ดี สุนัขเหล่านี้ต้องอยู่ในบริเวณที่มีรั้วรอบขอบชิด เพราะพวกมันช่างไม่มีสัญชาตญาณในการระวังภัยบนท้องถนนเอาเสียเลยและมักมีความเข้าใจอย่างผิด ๆ ว่ารถทุกคันจะหยุดรอให้พวกมันไปก่อน ด้านการดูแลทำความสะอาดให้สุนัขขนสั้นอย่างบีเกิ้ลนั้นแสนง่าย แค่อาบน้ำให้อาทิตย์ละครั้งก็เพียงพอ จากนั้นก็เช็ดหรือเป่าตัวให้แห้งพร้อมๆ กับแปรงขนไปด้วย หรือถ้าไม่สกปรกมากอาจใช้แค่ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดตัวให้ก็ได้ ส่วนเรื่องการแปรงขนให้บีเกิ้ลสามารถทำได้โดยง่าย เนื่องจากว่าเค้ามีขนสั้นและสีเข้ม ซึ่งควรแปรงขนทุกๆ 3-4 วัน เพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้วออกไปและช่วยเพิ่มความเงางามแข็งแรงแก่เส้นขน
ส่วนเรื่องอาหารการกิน หากเราต้องการให้เค้ามีสุขภาพแข็งแรง เติบโตสมวัย ก็ต้องใส่ใจเรื่องนี้ให้มาก ซึ่งวิธีการให้อาหารแก่บีเกิ้ลที่ถูกต้องก็จะเป็นไปตามช่วงวัยนั่นเอง